รู้ไว้ จะได้ใช้ถูก!! กับ เทคโนโลยี Power Over Ethernet (POE)
รู้ไว้ จะได้ใช้ถูก!! กับ เทคโนโลยี Power Over Ethernet (POE)
เทคโนโลยี Power Over Ethernet หรือ (POE) คือ เทคโนโลยีเพื่อส่งกระแสไฟฟ้าเพื่อจ่ายให้กับอุปกรณ์เครือข่ายผ่านสาย UTP กระแสไฟสามารถถูกจ่ายได้จากอุปกรณ์อย่าง POE Switch หรือจะผ่าน Midspan Power Supply ก็ได้
POE ตามมาตรฐาน IEEE แบ่งออกเป็น 2 มาตรฐานหลักๆ คือ 802.3af และ 802.3at โดยทั้ง 2 มาตรฐานจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของกระแสไฟฟ้าที่ส่งไป เช่น Access Point , VoIP Phone , CCTV และ IP-Camera เป็นต้น
IEEE 802.3af รองรับการส่งไฟฟ้ากระแสตรง (DC) สูงสุด 15.4 Watt , 48V , 350mA ต่ำสุดที่ 44VDC
IEEE 802.3at จะรองรับการส่งไฟฟ้า DC ที่มีกำลังสูงถึง 25.5 Watt หรือมากได้ถึง 50 Watt เมื่อใช้สายทุกคู่ในการส่งกระแสไฟฟ้า
ประโยชน์ของเทคโนโลยี POE
- ประหยัดกว่าเดินสายไฟในบางพื้นที่
- ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายและเวลาดูรักษาอีกด้วย
- รองรับความเร็วระดับ Gigabit
- กำลังไฟแบบ 48V DC สามารถทำระบบแบ็กอัปไฟได้ง่ายกว่า
อุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน POE
- Wireless Access Point ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor
- Network Router
- Network Switch
- IP-Camera
- IP-Phone
- Wall Clock with NTP
ศัพท์เทคนิคของเทคโนโลยี POE
Power Sourcing Equipment (PSE) คือ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่จ่ายไฟไปบนสาย UTP
Powered Device (PD) คือ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้กระแสไฟที่ได้รับผ่านสาย UTP จากอุปกรณ์ PSE นั่นเอง
โหมดการทำงานของ POE
POE แบ่งโหมดการทำงานออกเป็น 2 ประเภท คือ
Mode A คือ จะส่งกระแสไฟฟ้าไปบนสายทองแดงคู่เดียวกับที่ใช้ส่งสัญญาณข้อมูล โดยจะยังมีคู่สายสำรองอีก 2 คู่นั่นเอง
Mode B คือ การส่งกระแสไฟฟ้าไปบนคู่สายสำรอง
สำหรับการส่งสัญญาณแบบ 10Base-T และ 100Base-TX นั้น อาจจะใช้ได้ทั้งสองโหมด แต่สำหรับ 1000Base-TX หรือ Gigabit LAN จะต้องทำงานบนโหมด A เท่านั้น โดยอุปกรณ์ PSE (Power Sourcing Device) จะเลือกว่าจะทำงานในโหมดใด อุปกรณ์ PD จะไม่มีสิทธิ์เลือกโหมดการทำงาน โดย PSE อาจจะรองรับการทำงานโหมดใดโหมดหนึ่งหรือทั้งสองโหมดก็ได้